วิ่งรอบกว๊าน Payao Lake 26km

Summary

ซ้อมก่อนแข่ง
วางแผนก่อนแข่ง
แข่งจริง
สรุป
คะแนน

หลังจากห่างจากสนามวิ่งไปเดือนกว่าใช้เวลากับการซ้อมเทรล แล้วซ้อมพัฒนาตนเองก็ได้มีโอกาสออกสนามจริงอีกสักที ยังหวั่นๆว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เพราะสนามนี้ half+ ซะด้วย และไม่ได้ซ้อมอะไรมากมายเลยซ้อมเยอะสุดก็แค่ 10km เท่านั้นเอง

ที่จริงงานนี้สมัครไว้นานละเพราะเห็นว่าเป็นงานใหญ่แน่นอน และระยะทางเป็นอะไรที่พอดีเหมาะสำหรับการซ้อมทางเรียบสนามจริงก่อนไปเทรลที่เขาประทับช้างด้วย และอีกอย่างคุยกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ลงวิ่งงานเล็กๆ หรืองานมินิทั่วไปอีกถ้าไม่จำเป็น อีกเหตุผลคือต้องการใช้เวลากับครอบครัวมากกว่าแข่ง จึงเลือกลงเฉพาะรายการใหญ่เท่านั้น

ซ้อมก่อนแข่ง

หลายคนซ้อมก่อนแข่งนานมาก บางคนเป็นเดือน บางคนเป็นสองเดือน หลายคนเลือกสนามนี้เป็น Half แรกของพวกเขาหลายคนเลยตั้งความหวังและเอาจริงเอาจังกันมาก

ผมเหรอ…. ไม่ได้ซ้อมยาวเลยครับมัวแต่ซ้อมเทรลวิ่งขึ้นลงบนเขา และซ้อม Interval กับวิ่งตามตารางซ้อมง่ายๆ ตาม Heart rate ซึ่งก็ไม่ได้ซ้อมสำหรับแข่งรายการนี้ซักเท่าไหร่ และซ้อมระยะไกลสุดน่าจะประมาณ 12km เท่านั้นเอง เพราะเวลาส่วนใช้เวลาใหญ่อยู่กับลูก และคิดแต่การวิ่งเทรล แต่ถึงยังไงคิดไว้ว่าคงไม่เกินความสามารถของเราหรอก (นักวิ่งสายห้าว)

วางแผนก่อนแข่ง

ไปถึงพะเยาก็เกือบมืดแล้วรับ BIB ไปโรงแรมแล้วออกไปกินข้าวกับทีม ทุกคนจัดหนักโหลดคาร์โบฯ กันแบบจัดหนัก เราก็โหลดด้วยเลยมี พิซซ่า, สปาเก็ตตี้ และสลัด โหลดเยอะพรุ่งนี้ก็ต้องผลาญออกให้หมด

สำหรับผมอีกหนึ่งอย่างที่ต้องทำคือการกินก่อนวิ่งเรื่องนี้สำคัญสำหรับผมนะ หลายคนบอกว่าเวลาไม่พอทำไม่ได้ อันนี้ก็แล้วแต่คนครับ บางคนกินแล้วย่อยไม่ทันก็มี การกินก่อนวิ่งผมจะอัดขมปังแผ่นเข้าไปครับจะประมาณ 3 แผ่นก่อนวิ่งแค่ 1 ชั่วโมง พอเริ่มกินจะอยากเข้าห้องน้ำทันทีเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมทำมาตลอดก่อนวิ่ง

จบเรื่องการกิน มาเรื่องการวิ่ง ดูจากแผนที่แล้วมีน้ำและเหลือแร่บริการอยู่ทุก 2km ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องถือขวดน้ำหรือนำสายคาดเอวไปด้วย ผลไม้มีอยู่หลายจุดถือว่าโอเค ทีแรกลังเลเรื่องเจลว่าจะเอาไหม แต่ก็ขอจากพี่กตมากันไว้ก่อน 1 ซองก็เพียงพอ

การวิ่งวางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะวิ่งใน Pace 5.40 – 6.00 เพราะกลัวไม่จบและไม่อยากเดิน อยากวิ่งตลอดทาง คิดเอาไว้ว่าถ้าวิ่งใน Pace นี้คงวิ่งแบบสบายๆ จากนั้นกลับมาทบทวนเรื่อง Heart Rate เลยเปลี่ยนใจว่าเอา Heart Rate เป็นหลักดีกว่า ไม่อยากเหนื่อยแล้วหยุดเดิน แต่หากจะเดินจริงวางแผนเอาไว้ว่าจะเดินหลังจากกิโลเมตรที่ 21 หรือจบ Half ก่อนนั่นเอง

เวลาที่คาดหวังเอาไว้ 2:40 ชั่วโมง

แข่งจริง

ที่จุดสตาร์ทคนไม่แน่นเท่าไหร่ หาเวลาออกไป Warmup ก่อนเพื่อเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อม ใช้วิธีวอร์มอัพแบบ Dynamic Stretching ประมาณ 5 นาที

ริ่มวิ่งพยายามจะไม่วิ่งเร็วตอนแรกออกตัว แต่พอดูเวลาอยู่ Pace 5.05 – 5.10 ถือว่าเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้แต่ Heart Rate ยังอยู่ในกรอบก็ยังประคองไปได้เรื่อยๆ

ช่วง 10km ความเร็วที่ใช้มาถือว่าดีมากตอนนี้ประมาณ 5.20 – 5.30 ตั้งใจกับตัวเองตอนนั้นว่าจะวิ่งในช่วงนี้ไปจนจบให้ได้เพราะไม่รู้สึกเหนื่อยมาก สามารถวิ่งได้เรื่อยๆแน่ในความเร็วประมาณนี้ เริ่มแซงหลายๆ ตนขึ้นมาแต่ก็มีหลายคนแซงไปเรื่อยๆ

ช่วง 10 – 20km ช่วงนี้เส้นทางวิ่งจะอยู่ประมาณหลังหว๊านพะเยา ติดภูเขาและน้ำถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยงาม อีกหนึ่งสิ่งที่ประทับใจคือมีชาวบ้านออกมาเชียร์ ออกมานั่งข้างทางทำให้เรามีกำลังใจวิ่งขึ้นอีกเยอะ

20-26km หลังจากผ่าน half ไปหลายๆคนก็เริ่มหมดแรงแต่เรายังสามารถวิ่งตาม Pace ได้อย่างสบายคิดอยู่ในใจว่านี่คงเป็นผลจากการซ้อมแบบ Interval ด้วยส่วนหนึ่ง ช่วงนี้เริ่มแซงขึ้นไปหลายคนมาก เพราะหลายๆคนเริ่มเดินกันแล้ว จำได้ว่าแซงไปประมาณสิบกว่าคนเลยทีเดียว จนกระทั่งเข้าเส้นชัย

จบงานนี้ด้วยเวลาที่ดีในระดับหนึ่ง ดีกว่าที่ตั้งไว้ และ Pace ก็ดีมากจบที่ 5.23 m/h เวลา 2.20 ชั่วโมงอันดับที่ 108 overall และอันดับที่ 15 ในรุ่นอายุ