My First 20km run
ชื่อว่าในหลายเรื่องๆ ของหลายๆ คน ก็ต้องมี “ครั้งแรก” กันในทุกเรื่อง เรื่องของผมก็เช่นกัน ผ่านครั้งแรกมาอีกหนึ่งเรื่องเพื่อจะก้าวไปทำครั้งแรกในอาทิตย์หน้าเหมือนกัน แต่ครั้งแรกในวันนี้ของผมเป็นครั้งแรกในการวิ่งระยะไกลที่สุดที่เคยวิ่งมา นั่นคือการวิ่งยาวระยะ 20km ครังแรก
เรื่องมันมาที่มาที่ไปแบบนี้ ท้าวความกันสักหน่อยว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนผมพลาดการสมัคร CMU Marathon ซึ่งผมตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็น Half Marathon แรกของผม แต่โชคชะตามิได้นำพาเอาเสียเลยที่ทำให้ผมพลาดโอกาสในการสมัครครั้งนี้ เลยเฝ้าแต่รอว่าใครจะกันที่จะมาปล่อย BIB Half ให้ผม
ในที่สุดโชคชะตาก็นำพาจนได้เมื่อน้องที่รู้จักกันลง Marathon 42km ไว้แต่เนื่องจากว่าความไม่พร้อมของน้องเขา หรือไม่ได้ซ้อมนั่นเองก็ยอมปล่อย BIB ให้ผม พี่ที่รู้จักกันก็บอกอยู่แล้วว่าสามารถ Down ลงไปวิ่ง Half ได้นะ เพราะเราจ่ายในราคาที่สูงกว่า ผมเลยตกลงโอเคก็ว่ากันไป
ผ่านไปหนึ่งคืนก็มานั่งอ่านในกลุ่ม Ultra & Trail Runners in Thailand ซึ่งจะเป็นกลุ่มของผู้ที่วิ่ง Trail และ Ultra marathon (ระยะที่เกินกว่า marathon คือ 43km ขึ้นไป) อ่านไปอ่านมา เห้ยนี่เขาวิ่งได้กันขนาดนั้น เราก็ต้องได้สิ
ความคิดแรกที่ขึ้นมาเลยคือ 42km ไหวเหรอเหลืออีกสองอาทิตย์วิ่งไกลสุดแค่ 11km เอง พร้อมกับความคิดด้านแย้งก็ออกรัวๆในหัว แต่ยังยึดมั่น เอาวะ 42km ก็ 42km เริ่มซ้อมตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยละกัน
การวาแผนซ้อมของผมไม่มีอะไร ผมจะวิ่งปรกติ 5-10km อาทิตย์แรกผมต้องวิ่งให้ได้ 20km หนึ่งครั้ง และก่อนแข่ง 4 วันผมต้องวิ่งระยะ 30km+ ให้ได้ มาว่ากันที่ 20km ก่อน
ก่อนวิ่งต้องไปซื้อเจลมาก่อนครับจัด GU มาครับรสมะนาว ไอ้ซองเขียวๆข้างบนนั่นแหละครับ เพราะพี่ๆบอกว่าทุกอันรสชาติหมาไม่แดกหมดครับ มีมะนาวที่พอไปได้หน่อย การกินเจลขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ บางคนวิ่ง 42km อาจจะกินแค่ 2 ซองก็ได้ เจลพวกนี้เป็นเจลที่กินแล้วร่างการสามารถนำเอาสารอาหารไปใช้ได้ทันทีครับ ทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้นมา ส่วนใหญ่ 1 ซองจะให้พลังงานการวิ่งระดับ Aerobic ได้ประมาณ 45 นาที เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะกินกันทุกๆ 45 นาที และไม่ควรเกิน 4 ซอง (มันแพงครับ) ราคาซอง 75 บาท
เริ่มวิ่ง
หลังเลิกงานก็เตรียมเตรียมกระบอกน้ำ โทรศัพท์จนพร้อม ก็ออกวิ่งทันทีครับผมเลือกวิ่งเส้นทางตามแผนที่ข้างบนครับ ตั้งแต่ออฟฟิศเรื่อยไปจนปากทางเข้าห้วยตึงเฒ่า กลับมาวิ่งรอบสนาม 700 ปี แล้วกลับมาออฟฟิศจะได้ระยะทาง 10km วิ่งสองรอบครับจะได้ 20km พอดี ตรงนี้จะดีตรงที่ว่ามีเลนสำหรับวิ่งและจักรยานให้ เลยปลอดภัยกว่าวิ่งบนถนนนั่นเอง
5km วิ่งสบายๆ
ผ่าน 5km ไปแบบสบายๆ เพราะบังคับตัวเองสุดๆ พยายามวิ่งไม่ให้ต่ำเกิน pace 5 เพราะผมชอบวิ่งเร็ว โดยปรกติจะวิ่งช่วง pace 4 – 5 ทำให้ระยะทางการวิ่งนั้นสั้นลงไป คุมตัวเองได้ดีครับเลยไม่มีอาการเหนื่อยสักเท่าไหร่
10km ได้เวลากินเจล
เข้าสู่ช่วงกิโลเมตรที่ 10 เริ่มออกอาการเหนื่อย ตอนนี้กลับมาที่เดิมเริ่มฉีกซองเจลกินแล้วรสชาติสมคำร่ำลือไม่อร่อยเป็นที่สุดแต่ก็ต้องกินครับ หลังจาก 12km pace ตกไปที่ 6 ครับเพราะเริ่มเดินบ้างแล้ว ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องไม่เกิน 6 ครับ เริ่มเหนื่อยมากขึ้นและเดินบ่อยขึ้น
5km หยุดดีไหม หรือเอาต่อ
ตอนนี้อาการทุกอย่างมาพร้อมกันหมด เริ่มเดินสับวิ่ง เดินสลับแต่ก็คอยคุม Pace ตัวเองเอาไว้ตลอดเวลา ในหัวตอนนี้คือหยุดดีไหมแล้วเดินกลับ เจ็บเข่าแล้วนะหยุดเถอะ จะวิ่งอะไรกันนักหนา หัวใจเต้นเร็วแล้วละ เต็มหัวไปหมด พยายามวิ่งต่อไปสักพักลองมองดูเวลาเฮ้ย 17km แล้วอีกเดียว สลัดความกังวลทุกอย่างลุยต่อ
20km ในที่สุดก็ทำได้
พอโทรศัพท์บอกระยะ 20km ก็กดหยุดทันทีตามเป้าหมายแล้วนะ ดีใจน้ำแทบไหลเราก็ทำได้นี่หว่า เหนื่อยแบบบอกไม่ถูกกล้ามเนื้อขาล้าไปหมด แถมอาการเจ็บเข่ากลับมาอีกจนได้ มาดูสรุปเวลากัน ผมทำเวลาทั้งหมด 2:01 ชั่วโมง ซึ่งเป้าหมายของผมคือจบภายใน 2 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นไรเลยไปหนึ่งนาทีถือว่าไม่เสียหาย หากผมรักษาระดับการวิ่งแบบนี้ได้ผมอาจจบ 42km ได้ในเวลา 5 ชั่วโมง หรือแบบหล่อสุดๆ 4:30 ชั่วโมง มาดูเรื่องของ Pace บ้างผมจบที่ Pace 6, 6:03/km หรือ 6:03 นาทีต่อกิโลเมตรนั่นเอง อาจจะเยอะไปแต่ก็ไม่เลวเพราะครั้งแรกของผม
ลองมาคำนวณเล่นหากผมจบ 42km โดยใช้ pace นี้ 6 x 42 = 252 นาที หากลองคิดเป็นชั่วโมงกระจะประมาณ 4:20 ชั่วโมง อั๊ยยะ อาจจะจบแบบหล่อๆ ถ้าสามารถวิ่งยืนระยะนี้ได้
ยังไม่คิดถึงอีกหลายๆ เรื่องที่ต้องเจอในวันแข่งเอาเป็นว่ากะไว้ 5:00 ชั่วโมงแล้วกันครับ ต่อจากนี้ก็ ซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อม อีกอาทิตย์เดียวววววววววววว
Comments