Khaopratubchang Compressport Trail 2016

Khaopratubchang Compressport Trail 2016

ในที่สุดก็วิ่งจบเทรลงานนี้จนได้ เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากการวิ่งเทรลสนามนี้ อนึ่งวิ่งเทรลสนามนี้เป็นบททดสอบตัวเองว่าเดือนหน้า โคลัมเบียร์ มาสเตอร์ เทรล เราจะทำได้ไหม เทคนิคต่างๆ ที่ควรจะเอาไปใช้ในสนามถัดไปควรจะมีอะไรบ้าง มาเล่าสู่กันฟังดีกว่าครับว่าสนามเขาประทับช้างนี้มีอะไรน่าตื่นเต้นบ้าง

งานเทรลที่หลายๆ คนไฝ่ฝันที่จะมาวิ่งเพราะสมัครเต็มรวดเร็วเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าใครมีเงินก็สมัครได้ งานนี้ต้องเร็วด้วยครับ ถามว่าผมสมัครทันไหม ไม่ทันครับถอดใจไปแล้วด้วยว่าคงจะไม่ได้วิ่งสนามนี้แน่นอน จนกระทั่งมีการเล่นเกมส์ชิงสล็อตสมัครที่กลุ่ม 42.195 ของพี่ป๊อก และกลายเป็นหนึ่งในผู้โชคดีได้โค็ด VIP มาสมัครจนได้ ซึ่งมีข้อดีคือเราสามารถเลือกเลข BIB ได้อีกด้วย!!!

ไหนๆก็ได้โค๊ด VIP มาแล้วรออะไรครับ 32km ไปเลยครับผม…นักวิ่งสายห้าวครับ

ตอนนี้ก็มีทุกอย่างพร้อมแล้วเหลือที่พัก และแล้วงานนี้ก็ลากพี่กตไปด้วยจนได้ไปเป็นเพื่อนกันหนุกดีครับ

การเดินทางและการรับ BIB

การเดินทางของผมครั้งนี้พยายามจะลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด เพราะมีอีกหลายค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบในเดือนถัดไปใช้วิธีการนั่งเครื่องบินไปวันเสาร์สายๆ และนั่งรถของนครชัยแอร์กลับตอนกลางคืน แน่นอนครับต้อง First Class เพราะกะว่าจะนอนมาตลอดทางครับเหนื่อยแน่นอน

การเดินทางขาไปลงที่ดอนเมืองจากนั้นไปราชบุรีกับเพื่อนพี่กตครับ งานนนี้ต้องขอบคุณพี่นิคกี้แห่ง Snail Gang ครับที่ให้ความอนุเคราะห์ติดรถไปด้วยและที่พักด้วยครับ ส่วนขากลับก็มาส่งที่นครชัยแอร์เรียกว่าเอาประทับใจกันไปเลยทีเดียว

ส่วนเลข BIB ผมให้เพื่อนมารับแทนที่ กทม แล้วส่ง EMS มาให้ก่อนแล้วครับเพราะไม่อยากรีบมางานจนเกินไป

สถานที่จัดงาน

งานเขาประทับช้างเทรลนี้จัดที่สวนพฤษศาสตร์บ้านจอมบึง กึ่งกลางระหว่างตัวเมืองราชบุรีและอำเภอจอมบึงถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าสนใจครับ มีสวนสัตว์ขนาดเล็กๆ อยู่ข้างในด้วยครับ ชักอยากจะวิ่งแล้วสินะ

ที่งานคนเยอะมากครับ ย้ำครับเยอะมาก ทั้งมาดูเด็กแข่งวิ่งและมาถ่ายรูปกับป้ายในงาน มาเจอเหล่าเซเล็ป มากินข้าวฟรี หรือแม่กระทั้งมาช๊อปปิ้งตามร้านต่าๆงที่มาออกร้านครับ

การจัดงาน งานนี้การันตีโดยทีมงานราชภัฎจอมบึงผู้จัดงานเดียวกันกับจอมบึงมาราธอนนั่นเองครับ นี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งครับว่าทำไมงานเทรลนี้ถึงเป็นที่นิยมมากเหลือเกิน โดยคนเยอะตั้งแต่งานวันก่อนวิ่งเลยครับมีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมาย มีข้าวฟรี มีหนังให้ดู เยอะแยะไปหมด

มาถึงการจัดและการดูแลในสนามกันบ้าง งานนี้ต้องยอมรับว่าเขาใส่ใจทุกๆ รายละเอียดจริงๆ เรื่องแรกเอาเรื่องน้ำและเกลือแร่ก่อน ไม่มีหมดเติมตลอดจนถึงนักวิ่งคนสุดท้าย เหลือแร่หลายรถชาติเลือกเอาเองชอบรถไหนทั้งสีเหลือง ขาว เขียว แดง ผมชอบสีเหลืองกับสีแดงนะ อร่อยดี รวมถึงแตงโมที่กินเท่าไหร่ก็ไม่หมด วิ่งเสร็จแอบมาเห็นข้างหลังงานยังมีสต๊อกอีกเพียบ!!!!

เส้นทางการวิ่งที่ทับกันไปมาและค่อนข้างสับสนอันนี้ขอติเตียนครับ บางครั้งวิ่งทับไปมา สวนกันไปมาเล่นเอางงพอสมควร แต่ก็อย่างที่เกริ่นมาครับเขาดูและและใส่ใจนักวิ่งอย่างดีจริงๆ สต๊าฟเยอะมากมีเกือบทุกจุดที่ดูหมือนจะสับสนเเพราะบางคนวิ่งเทรลแรก ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งแบบไม่ดูริบบิ้นก็มี ต้องคอยชี้ทางบอก มีอยู่ทุกจุดในป่าประมาณว่าถ้าเจ็บก็ตะโกนได้เลยต้องมีสักคนหนึ่งได้ยินแน่นอน

หน่วยปฐมพยาบาล มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วโดยรถมอเตอร์ไซต์ เข้าถึงได้เกือบทุกพื้ที่จริงๆ แต่ถึงยังไงเสปรย์ก็ยังไม่พออยู่ดี (อันนี้ได้ยินเพื่อนบอก เพราะผมไม่ได้ฉีดเสปรย์เลย) ช่วงก่อนขึ้นเขามีเตรียมไม้ไผ่ให้ด้วย คือดีงามมากกกก

ชอบตอนเข้าเส้นชัยด้วยเพราะหลังจากผ่านเส้นชัยเข้าไปแล้วต้องเดินไปด้านหลังเพื่อรับเหรียญทำให้คนไม่ออกันอยู่ที่เส้นชัย อันนี้ขอปรบมือให้ดังๆ ครับ

ข้อเสียนะครับ เส้นทางที่ทับกันระหว่าง 32km กับ 21km นั้นตอนขึ้นเขาทำให้การจราจรหนาแน่นไปหน่อยครับ เพราะเป็น Single Track ทำคนคนเป็นหลักร้อยมารวมกันและต้องต่อคิวขึ้นและลงด้วย

งานนี้กล้องเยอะมากๆๆ ต้องไปตามหารูปมาลงซะก่อนนนน

สภาพสนาม

หลังจากฝนตกลงมาทั้งวันก่อนงานแข่งที่คิดเอาไว้คือมีหวังเละแน่นอน สนามช่วงแรกจะเป็นถนนดินแข็งธรรมดาทั่วไป ก่อนที่จะเข้าสู่ป่าพื้นราบที่เราต้องคอยหลบกิ่งไม้บ้าง ต้องคอยสังเกตดีๆ ตรงนี้ตอไม้ค่อนข้างเยอะพอสมควร ต้นไผ่ค่อนข้างเยอะต้นที่ล้มๆ เราต้องคอยก้มหรือโดดข้าม สนุกดี

มีสวนสัตว์เล็กๆ (แบบนี้เรียกสวนสัตว์ก็ได้เหรอ) วิ่งวนไปทักทายสัตว์สักแป๊บนึง ก่อนจะขึ้นเนิน (เขาเรียกเนินนี้ว่าเลียงผา) ANG Gain ประมาณ 160m ไต่เรียบหิน และพื้นดินขึ้นไประมาณ 1km หินคมและดินลื่นต้องระวังกันเป็นพิเศษ มาถึงช่วงลงของเนินนี้ยิ่งลื่นครับ ฝนที่ตกลงมาเมื่อวานทำให้เกิดความลื่น และเป็นการลงเขาที่ทุกลักทุเลมาก เพราะมีความชัน ต้นไม้ที่จะจับก็มีหนามด้วยนะ โหดมันฮา กันเลยที่เดียว

ถัดจากเนินก็เป็นพื้นที่ป่าที่ต่างจากตอนแรก ตรงนี้จะมีหญ้าขึ้นเยอะกว่าเดิม ดินเริ่มร่วนคอยตัดกำลังไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เริ่มขึ้นเนิน ที่เป็นหินมีความชันไม่มาก แต่มองทางเดินแทบไม่เห็น เกือบหลงไปเหมือนกัน ช่วงนี้จะเป็นทางขึ้นลงๆ Gain ไม่มากพอสนุกสนาน

เข้าสู่ป่าโปร่ง ช่วงนี้เป็นดินทรายครับลากยาวเลย เชื่อว่าตรงนี้แหละที่เรียกตระคริวให้ใครหลายๆ คนรวมทั้งตัวผมเองด้วย ทางทรายบวกกับดินร่วนขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะครับ หมดจากทางทรายกลับเข้าสู่ป่ากันอีกครับ

ก่อนจะจบก็จะมีเนินไม่รู้จบให้ไต่กันอีกหนึ่ง อันนี้สนุกจริงเพราะสูงและยาวเล่นทำเอาหลายๆ คนแทบถอดใจกันเลยทีเดียว ขึ้นยาวๆ กับหินแล้วดินลื่นหลังจากนั้นลงบันไดแล้วเข้าเส้นชัยครับ

การวิ่งในสนาม แปร้นนนนน เสียงแตรปล่อยตัวดังขึ้นนักวิ่งก็เริ่มวิ่งแล้วครับผมอยู่โชนกลางๆ ก็ต้องรอเวลาหน่อยนึงเพราะนักวิ่งค่อนข้างเยอะ ระยะ 32km มีทั้งหมด 1408 คนเยอะมากกก ช่วงแรกหลายๆ คนอัดกันออกเลยทีเดียวเราก็บ้าจี้ครับอัดเพส 5 กว่าๆไปเลยเหนื่อเลยย ทางเรียบวิ่งง่ายครับแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าทางป่า เริ่มเป็นทางดินแข็งอยู่ครับยังวิ่งสบายแต่ต้งคอยหลบกิ่งไม้บ้าง คุมเพซตัวเองได้ดีเยี่ยมประมาณ 5-6 นาที/กิโลเมตร ช่วงนี้จะยาวประมาณ 8 กิโลเมตร

หมดจากทางราบเริ่มขึ้นเขาลูกแรกแหงนขึ้นไปข้างไม่มีปัญหาใจอยากจะจ๊อกขึ้นไปด้วยซ้ำ แต่คนเยอะเลยได้แต่ค่อยๆ ไต่ตามตูดกันไปไม่ต้องถามเรื่องแซงยากมาก ดินค่อนข้างนุ่มแต่ลื่น รู้สึกแอบได้เปรียบเรื่องรองเท้ามากกเกาะหนึบเบยไต่ขึ้นไปเกาะไม้ไผ่ไป เอารองเท้าจิกขึ้นเป็นอะไรที่มันส์ (ได้เปรียบเรื่องรองเท้า)

ช่วงขาลงของเนินนี้ก็เช่นกัน ทางลื่นมากประกอบกับหิน แต่ก็ยังทำความเร็วไม่ได้อยู่ดีเพราะคนเยอะต้องคอยต่อคิวกันลงเขา เขาลื่นๆกันส่วนเรายังชิวเพราะรองเท้ามีปุ่ม หลายคนจะเจอหนามต้นงิ้วแถวๆนี้เพราะความลื่นแต่เราไม่พลาดเพราะสังเกตตลอด ต้อนงิ้วเยอะมากกกก

พอลงมาก็จะเป็นช่วงทางราบยาวเริ่มจะเป็นดินร่วนละครับ บางพื้นที่มีแฉะติดรองเท้าเลยทีนี้เมื่อกี้ได้เปรียบตอนนี้เสียเปรียบ ดินติดรองเท้า ยังทำเพจได้แค่ 7-8 คงเป็นเพราะวิ่งเร็วในช่วงแรกถึงตรงนี้ก็คงจะปาเข้าไปประมาณกิโลเมตรที่ 15 แล้วล่ะครับเริ่มวิ่งเร็วไม่ได้เพราะ HR เริ่มขึ้นมาแต่ที่ 170 bpm ซะแล้วต้องค่อยๆผ่อนและเดินเพื่อเอา HR ลงก่อนไม่งั้นไม่จบแน่ ยังเป็นทางดินร่วนและแฉะไปเรื่อยๆ โอยๆ จะตัดกำลังไปถึงไหนกันนนน

ในที่สุดก็ออกจากป่าทึบมาเป็นช่วงป่าโปร่งที่ไหนได้เป็นทรายเลยครับทีนี้เอาละแย่ละ โคลนมาเป็นทรายพระเจ้า ช่วงนี้ผมวิ่งช้ามากประมาณ 8 – 8.30 ได้ปัญหาที่ตามมาปัญหาหนึ่งก็คือ ถุงเท้าเริ่มแฉะแล้วครับ 17 กิโลเมตรเองเริ่มรู้สึกที่นิ้วเท้าแล้วเพราะรองเท้าบีบหน้าเท้ามาก ตอนแรกๆได้เปรียบเรื่องรองเท้าตอนนี้ชักจะเสียเปรียบซะแล้วสิ

ถึงจุดให้น้ำประมาณกิโลเมตรที่ 19 คราวนี้จำเป็นต้องถอดรองเท้าถุงเท้าออกมาบีบน้ำออกให้หมด เห็นเท้าตัวเองเริ่มเหี่ยวแล้วเพราะแฉะมานานมาก พักสักหน่อยเห็นเขาฉีดเสปรย์กันก็ฉีดบ้าง ออกจากจุดให้น้ำซัก 300 เมตรขึ้นขาเลยครับบบ มาแล้วตะคริวมาแล้วววว มาเร็วมากตอนนี้ต้องตั้งใจแล้วครับว่ารักษาอาการให้ได้เพราะเหลืออีกสิบกว่าโลเอง

เริ่มเข้ามาในป่าอีกครั้งและคราวนี้เริ่มขึ้นเนินหินอีกแล้วแต่ไม่ชันมากเท่าไหร่ มีน้องๆ คอยยื่นไม้ไผ่ให้เข้าท่าดี ตั้งหน้าตั้งตาไต่ไปเรื่อย จนมีน้องคนหนึ่งเรียก “พี่ๆ ทางนี้ๆ” เกือบหลงครับบบ แหม่ก็ไต่แบบไม่มองข้างหน้าแบบนั้นเขินนิดนึงวกกลับเข้าทางเดิมแล้วไปต่อ ลงเขาแบบหินๆ แล้วก็ขึ้นเขาแบบหินๆ อีกรอบ

ลงจากเขาหินต่อไปเป็นทางป่าคราวนี้พลังมาแล้วครับ วิ่งเพจ 6 ได้แล้วววว จัดเลยครับ ช่วงนี้ไล่แซงขึ้นมาได้เรื่อยๆ ผมว่ามากกว่ายี่สิบคน ขอทางอย่างเดียวมาดีดเอาช่วงนี้จนกระทั่ง 2 กิโลเมตรสุดท้ายแล้ว ใครจะเชื่อว่าข้างหน้าเป็นเนินอีกแล้ว แหงนมองขึ้นไปทำไม่มันสูงอย่างนี้วะเนี่ยยยย สต๊าฟเรียกเนินนี้ว่า “เนินไม่รู้จบ”

ไต่ขึ้นไปตามแนวดินและหิน ไม่ค่อยลื่นเหมือนเนินแรก ช่วงนี้แซงได้อีกสี่ห้าคนเพราะหลายๆ คนหมดแรงกลางทางที่ปีนขึ้น และได้ข่าวมาตอนหลังว่ามีคนเป็นลมที่เนินนี้ด้วยนะ แต่เราได้อานิสงค์จากดอยสุเทพเลยไต่ได้แบบไม่ต้องหยุดพัก

ช่วงขาลงจากเนินนี้เป็นบันไดหิน ผมขอเรียกบันได้นี้ว่า บันได้เรียกตะคริว!!! เพราะตระคริวผมมันกลับมาแล้ว ช้าที่ตรงนี้พอสมควรเพราะวิ่งแซงไม่ได้ พอออกจากบันไดได้ปุ๊บ Sprint เลยครับที่ไหนได้ก่อนเส้นชัยสัก 300 เมตรตะคริวแดกครับบบบ หยุดเลยไม่นะ โดนแซงไปหนึ่งชุดดดดด กัดฟันเข้ามาจนได้ด้วยอาการบอบช้ำเหลือเกิน

~03:55:41~

สรุป

งานวิ่งรายการนี้ทำได้น่าประทับใจในเกือบทุกเรื่องไม่รู้ว่าจะติเรื่องไหน ขอติดเรื่องเส้นทางซับซ้อนละกันครับนอกนั้นดีหมดเอาแบบนี้ละกันครับ ใครอยากรู้ว่าดียังไงปีหน้าลองไปวิ่งดูครับ แล้วจะหลงรักรายการนี้

ผมจบสนามนี้ด้วยเวลา 03:55:41 ชั่วโมงซึ่งดีกว่าที่ผมตั้งใจไว้คือ 4 ชั่วโมงไม่เกิน 4:30 ชั่วโมง แม้จะเป็นตะคริว และเจ็บที่ร้องเท้าบีบ เท้าแฉะ แต่ไม่มีอาการบาดเจ็บอื่นเข้ามา ถือซ้อมได้ดีแต่ยังไม่พอ รายการหน้า 50 มั่นใจต้องดีกว่านี้

คะแนน

10/10

เจอกันปีหน้าเขาประทับช้าง

Comments

comments powered by Disqus