imoo Z2 phone watch for Keeta

เมื่อวานได้โอกาสไปซื้อนาฬิกาติดตามเด็กไว้เป็นของขวัญให้ลูกสาว เห็นบอกว่าอยากได้มาตั้งแต่อยู่อนุบาลสอง เลยบอกไปว่ารอขึ้น ป1 ก่อนจะซื้อให้ นั่นเพราะเห็นเพื่อนๆ ใส่ไปโรงเรียนแน่นอน

จริงผมก็ดูนาฬิกายี่ห้อนี้ไว้นานพอสมควร หลัก ๆ ก็เป็นเพราะเรื่องการระบุตำแหน่งของเด็ก พอทราบบางฟีเจอร์ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับตามไปอ่านรีวิว หรือค้นหาข้อมูลแบบจริงจัง ตอนนั้นก็คิดอยู่ว่ายังซื้อไม่ได้ เพราะคีตายังคงใช้ไม่ค่อยเป็น

จะขึ้นประถมฯ หนึ่งแล้ว

ช่วงนี้เป็นช่วงปลายภาคเรียนที่สอง ในชั้นอนุบาลสามของเด็กหญิงคีตาบุหรง นั่นหมายความว่าจะต้องเลื่อนชั้นไป ป1 ในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว ประกอบกับเป็นวันเกิดอายุครบ 6 ขวบแล้วจึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะอย่างน้อยก็ใช้โทรศัพท์ของแม่ได้แล้ว น่าจะใช้ฟังก์ชั่นในนาฬิกาได้แล้ว

เริ่มหาข้อมูลแบบจริงจัง

ก่อนที่จะซื้ออะไรสักอย่างหนึ่ง ผมเป็นคนนึงที่ต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยส่วนใหญ่จะอ่านจากเว็บของผลิตภัณฑ์แบบละเอียดก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจะเริ่มหาดูว่ารุ่นไหน หรือ โมเดลไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา เป็นอย่างแรก สำหรับ imoo ก็ตามเข้าไปดูในเว็บ imoo.com ผมจำได้ว่าช่วงก่อนมีอีกรุ่นคือ Z5 แต่ตอนนี้ในเว็บเหลือแค่สองรุ่นคือ Z2 กับ Z6 ก็เลยเหลือแค่สองตัวเลือกสำหรับผม

เริ่มกันที่ Z2

ผมว่ารุ่นนี้มันเล็กดีน่าจะเหมาะกับข้อมือของเล็ก ๆ ของลูกสาวเป็นอย่างดีทีเดียว เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานก็ไม่ได้แย่นะ มีทุกอย่างที่เราต้องการ มากกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากเป็นนาฬิกาสำหรับเด็ก จึงไม่ได้ต้องการอะไรหวือหวามากมาย เรื่องราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลดีนะ มีให้เลือกอยู่สองสี คือสีเขียว กับชมพู ส่วนเรื่องวัสดุที่ใช้ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย ติ๊กไว้เป็นหนึ่งตัวเลือก แล้วไปดูต่ออีกหนึ่งรุ่น

ตัวท็อป Z6

มาดูทางด้านตัวที่เป็นเรือธงกันบ้าง รุ่นนี้เมื่อลองดูความสามารถแล้วคือแบบว่าฉีกไปจากตัว Z2 เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบประมวลผล หน้าจอ กล้องหน้าหลัง หน้าปัดนาฬิกาสามารถพับขึ้นได้ มีระบบ AI Scan คือปรับให้เทพขึ้นกว่าเดิมไปอีก ซึ่งก็แน่นอนว่าราคาก็ต้องขยับไปตามสิ่งที่เราได้กลับมานั่นเอง

สรุปสำหรับผม Z2 ก็เพียงพอแล้ว

แน่นอนว่าตัวที่แพงกว่าย่อมดีกว่าอยูแล้ว สำหรับคีตาผมคิดว่ามันใหญ่เกินไป และที่สำคัญแพงไป 555 และคีตายังเด็กไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ด้วยครับ เลยโอเคกับ Z2 มากกว่า

Unboxing

Z2 ตัวนี้ผมซื้อที่ AIS และแน่นอนครับใช้ Promotion เซเรเนดเพื่อรับส่วนลด ส่วนคนที่ไม่มีเซเรเนดก็ไม่ต้องเสียใจครับ ยังมีโปรโมชั่นอื่นอีกมากมาย ในกล่องก็จะมีสายชาร์จแถมมาให้ คู่มือการใช้งาน และมาพร้อมกันที่เปิดซิมการ์ดของนาฬิกาด้วยครับ

วัสดุ และตัวนาฬิกา

ตัวเรือนขนาด 50.96x42.40x14.90（mm）อาจจะใหญ่ไปนิดนึงสำหรับเด็กตัวเล็กแต่ก็ไม่ถึงกับเทอะทะไปเลยซะทีเดียว พร้อมกับน้ำหนัก 53 กรัม อาจหนักไปสักเล็กน้อยสำหรับเด็กแต่ก็ไม่มาก สำหรับผมพอรับได้ วัสดุของตัวเรือนแข็งแร็งทนทาน เป็นพลาสติกเกรดดี

สายนาฬิกา

มาดูทางด้านสายนาฬิกากันบ้าง สายนาฬิกาทำมาจากซิลิโคน และ เทอร์โมพลาสติก Dow Corning TPSIV มีความยืดหยุ่นสูง และทนทาน มีร่องระบายอากาศ ดีเลยทีเดียว

กันน้ำระดับ IPX8

ตัวเรือนกันน้ำระดับ IPX8 ดูรายละเอียดระดับการกันน้ำ สามารถใส่ว่ายน้ำในสระน้ำได้สบายๆ และตัวเรือนกันน้ำลึก 20 เมตร พร้อมเซนเซอร์ด้านหลังนาฬิกาเพื่อคอยส่งสัญญานเตือนไปที่แอพฯ ว่านาฬิกาจุ่มน้ำหากผ่านไป 10 วินาที

หน้าจอ และกล้อง

กล้องมีด้านหน้าที่เดียวขนาดความชัด 2 ล้านพิกเซล กระจกเลนแบบ Sapphire เพื่อความแข็งแรงป้องกันรอยขีดข่วน ใช้สำหรับถ่ายรูปกับ Video call สำหรับผมแล้วคิดว่าเพียงพอ จอสีแบบ TFT ขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียด 240x240 pixel กระจกหน้าจอแบบ 2.5D Gorilla Glass (เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Corning ตัวกระจกนั้นเกิดจากพันธะของอลูมิเนียม ซิลิโคน และออกซิเจนเข้าด้วยกัน (เพิ่มเติม)) สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี รวมทั้งมีความแข็งแรงมาก ป้องกันการแตกจากการตกจากที่สูงได้ดีมากกว่ากระจกชนิดอื่น

การเชื่อมต่อ, การระบุตำแหน่ง และเซ็นเซอร์

การเชื่อมต่อของ Z2 สามารถใส่ simcard ในย่านความถี่ GSM:900,1800 WCDMA:B1,B8 FDD-LTE:B1,B3,B8 TDD-LTE:B38,B39, B40,B41 จากย่านความที่รองรับนั้นบ่งบอกว่ารองรับเครือข่าย 4G (FDD-LTE + TDD-LTE) เชื่อมต่อ WIFI แบบ 2.4 GHz รวมไปถึง Bluetooth อีกด้วย

การระบุตำแหน่ง

Z2 ใช้การระบุตำแหน่งถึง 7 แบบด้วยกัน GPS, GLONASS, Base Station (BS), Accelerometer, Wi-Fi, A-GPS, Camera-assist Locating เพื่อความแม่นยำ เท่าที่ได้ทดสอบหากเราเปิด WIFI เครื่องก็จะใช้การระบุตำแหน่งแบบ WIFI แต่ทั้งนี้ทั้งความคลาดเคลื่อนไม่ได้ไกลมากครับ

เซ็นเซอร์

Z2 ใช้เซ็นเซอร์อยู่สองแบบครับคือ Accelerometer และ Gyroscope แต่ผมไม่แน่ใจว่าทั้งตัวทำงานพร้อมกันหรือว่าแยกกันทำงาน สำหรับใครที่ไม่เข้าใจว่าทั้งสองแบบต่างกันยังไงลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ spicydog.org ครับ

imoo application

สำหรับนาฬิกาทั้งสองรุ่นสามารถปรับการตั้งค่าได้อย่างละเอียดผ่าน application ที่ชื่อว่า imoo ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งสองระบบทั้ง Android และ iOS รายละเอียดโดยรวมถือว่าออกแบบได้ดีเลยทีเดียว เท่าที่ผมลองทดสอบดูโดยรวมผมคิดว่าดีเลยนะ ฟีเจอร์ตอบโจทย์ผู้ปกครองได้ดีเลยทีเดียว แต่ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่าผมใช้ Android ครับ

Design UX/UI

การออกแบบของแอพฯ เรื่องของความง่ายในการใช้งานทำได้ดีเลยทีเดียว แยกส่วนที่จำเป็นต้องใช้บ่อย ๆ ไว้ข้างล่างเป็นเมนูหลักกดเข้าไปดูได้เลย เรื่องสีและการออกแบบคอมโพเนนท์ต่าง ๆ แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน โทนสีที่ใช้ไม่อ่อนหรือว่าเข้มจนเกินไป icon และการวางตำแหน่งของ icon ก็บ่งบอกความหมายในตัวเองอย่างชัดเจน

Video call

กล้องและหน้าจอของ Z2 อาจจะไม่ชัดเหมือนตัว Z6 แต่โดยรวมถือว่าไม่ได้ขี้เหร่ หากเราไม่ได้จริงจังกับส่วนนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาครับ ตัดมาทางด้าน Application กันบ้าง หากเราพยายามจะโทรในขณะที่อยู่ในโหมดเรียน แอพจะแจ้งเตือนบอกให้เราทราบว่าลูกกำลังเรียนอยู่ (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่าง)

ในขณะที่เรา video call กำลังลูกนั้นเราจะเห็นรูปตัวเองและของลูกโดยสามารถสลับเป็นรูปเล็กกับรูปใหญ่ได้ พร้อมกับส่วนล่างของแอพฯ จะบอกถึงตำแหน่งที่อยู่ของลูกด้วยเช่นกัน

Chat

หน้าจอแรกของแอพฯ จะเป็นการแชทเราสามารถที่จะแชทกันลูกสาวได้ทันทีโดยการพิมพ์ข้อความ ส่งอีโมจิ รวมไปถึงการแนบวิดีโอหรือรูปภาพได้อีกด้วย ส่วนทางด้านนาฬิกาหากต้องการพิมพ์ข้อความดูเหมือนจะลำบากมาก แนะนำสอนลูกใช้การแชทผ่านเสียงดีกว่าครับ

นอกจากจะแชทส่วนตัวกับนาฬิกาแล้ว เรายังสามารถสร้างกลุ่มเพื่อแชทได้อีกด้วยครับ หรือหากลูกมีเพื่อนที่ใส่นาฬิกาเหมือนกัน ก็สามารถแชทระหว่างนาฬิกาได้เลยครับ

Locate

ฟีเจอร์ที่ผู้ปกครองชื่นชอบ นั่นคือการระบุตำแหน่งของนาฬิกา เราสามารถรู้ตำแหน่งของนาฬิกาได้แบบเรียลไทม์เลยครับ โดยจะแสดงแผนที่และรู้ avatar ของนาฬิกาที่เราตั้งไว้พร้อมตำแหน่งในแผนที่

ด้านล่างจะเป็นรายละเอียดของตำแหน่งนาฬิกาพร้อมที่อยู่ พร้อมรายละเอียดการระบุตำแหน่งว่าได้ตำแหน่งนาฬิกามาด้วยวิธีไหน GPS, WIFI หรือว่าจับตำแหน่งด้วยเสาสัญญานโทรศัพท์เป็นต้น รวมไปถึงแจ้งให้เราทราบถึงความแม่นยำในการะบุตำแหน่งอีกด้วย

ส่วนเมนูด้านข้างจะเป็นทางลัดการตั้งค่าของแผนที่ต้องการใช้แผนที่ประเภทไหน แล้วการตั้งค่าการแจ้งหากลูกเข้าถึงพื้นที่ที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ (ดูเพิ่มเติมด้านล่าง)

Notification

ในหน้าการแจ้งเตือนจะแสดงกิจกรรมการแจ้งเตือนต่าง ๆ ออกมาในรูปแบบ Timeline ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ว่าเราต้องการที่จะแสดงการแจ้งเตือนไหนบ้างเพียงแค่กดที่รูปเกียร์มุมด้านบนของจอในหน้านี้

Kid Card

หากเราเลือกเมนู “More” ที่อยู่ถัดมาจากการเมนูการแจ้งเตือน แอพฯ จะเปิดหน้าต่างขึ้นมาพร้อมกับแสดงความสามารถเพิ่มเติมของแอพ ฯ โดยด้านบนสุดจะมีการ์ดเล็กๆ เป็นรูปโปรไฟล์ของลูกเราเอง หากเรามีหลายโปรไฟล์ สามารถเลื่อนไปทางขวาเพื่อเลือกที่จะตั้งค่าต่าง ๆ ของแต่ละคนได้เลย

หากเรากดที่ Card แอพฯ จะแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของลูกซึ่ง เราสามารถที่จะใส่รายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ของลูกตตรงนี้ครับ รวมไปถึงแสดงหมายเลขโทรศัพท์ และ QR Code สำหรับเพิ่มนาฬิกาด้วยครับ

App Management, Photo Wallpapers, SMS Collection

App Management เอาไว้จัดการ app ในนาฬิกาของลูกว่าเราต้องการให้ลูกใช้แอพฯ ไหนบ้างหรือไม่ต้องการให้เข้าถึงแอพฯ ไหนบ้าง เราสามารถตั้งค่าเปิดปิดได้ในหน้านี้เลยครับ

Photo Wallpapers เราสามารถสร้างภาพพื้นหลังสำหรับนาฬิกาของลูกได้จากตรงนี้ครับ สามารถเลือกรูปมาตั้งเป็นพื้นหลังได้เลย

SMS Collection ทุกข้อความที่เข้ามายังหมายเลขของนาฬิการจะถูกนำมาแสดงที่นี้ แล้วหากเรามีคนที่สามารถเข้านาฬิกานี้ได้หลายคนเรายังสามารถที่จะปิดไม่ให้คนอื่นเห็นได้อีกด้วยครับ

Class Mode

หากมีคำถามว่าหากใด้ลูกใส่นาฬิกาแบบนี้ไปโรงเรียนแล้วลูกจะมัวเล่นแต่นาฬิกาไม่ยอมสนใจเรียนหนังสือหรือเปล่า? คำตอบอยู่ในโหมดนี้ครับ

สามารถกำหนดช่วงเวลาห้ามใช้และเปิดโหมดห้ามใช้ขณะเรียนได้ผ่าน APP บนโทรศัพท์มือถือโดยเด็กๆ จะสามารถดูเวลาและโทรหาแอดมิน ของนาฬิกาได้เท่านั้น เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนจึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชัน อื่นๆได้ ช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิในการเรียนมากยิ่งขึ้น

ซึ่งภายใน app เราสามารถที่จะกำหนดช่วงเวลาเรียน และเวลาพัก หากอยู่ในช่วงเวลาเรียน นาฬิกาจะถูกล็อคไว้ให้สามารถดูเวลาได้อย่างเดียว และโทรฉุกเฉินหาผู้ปกครองที่เป็นแอดมินได้คนเดียวครับ

Reject Unkown Calls

นาฬิกาจะถูกต้องค่าการไม่รับสายที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ไม่ได้บันทึกไว้โดยอัตโนมัติครับ เพื่อป้องกันการโทรเข้าจากคนภายนอกที่ไม่ใช่บุคคลในครอบครัว และเรายังสามารถดูรายการเบอร์ที่โทรเข้ามาได้ด้วยครับ ในส่วนนี้หากเราต้องการปิดการใช้งานก็สามารถตั้งค่าผ่านตรงนี้ได้เลย

Security Guard

เราสามารถตั้งต่าสถานที่ตามสัญญาน WIFI ได้ด้วยครับ ยกตัวอย่างเช่น หากเราตั้งค่าไว้ว่า WIFI SSID นี้หากนาฬิกาเชื่อมต่อแสดงว่าลูกถึงบ้านแล้ว หรือตั้งไว้ว่าเป็นบ้านปู่ หรือบ้านน้า หรือบ้านเราเอง แล้วแต่เราจะตั้งไว้ครับ เมื่อนาฬิกาเชื่อมต่อกับ SSID ที่เรากำหนดไว้เราจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอพ ฯ ทันทีเลย

Scheduled Power On/Off

แน่นอนหากเราไม่ต้องการให้ลูกมัวเล่นแต่นาฬิกา เราสามารถตั้งเวลาเปิดปิดนาฬิกาเอาไว้ได้เลย อย่างของผมจะตั้งไว้ให้เปิดเมื่อเวลา 6.00 และนาฬิกาจะปิดเมื่อถึงเวลา 20.00 น

Auto Answer and Soaking Water Remind

Auto Answer เราสามารถสั่งให้นาฬิการับสายผู้ปกครองอัตโนมัติหากนาฬิกาไม่ยอมกดรับสายภายใน 10 วินาที เพื่อดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ลูก และเรายังสามารถกำหนดได้อีกด้วยว่าสายจากใครที่จะให้นาฬิการับสายอัตโนมัติ

Soaking Water Remind หากนาฬิกาถูกแช่น้ำนานเกิน 10 วินาที แอพฯ จะแจ้งเตือนมายังโทรศัพท์พร้อมบอกตำแหน่งมาให้ด้วย เพือป้องการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำกับลูกของเรา

สิ่งที่ควรจะมี

แอพฯ และนาฬิกามีหลากลายความสามารถแต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าแอพฯ ควรจะมีคือการใส่รหัส PIN ก่อนเข้าแอพ เพื่อป้องกันกรณีลูกเล่นโทรศัพท์ผู้ปกครอง ซึ่งอาจเข้าไปเปลี่ยนการตั้งค่าโดยไม่ได้ตั้งใจ

Summary

ยังมีฟีเจอร์ และการตั้งค่าอีกหลายอย่างที่ผมไม่เขียนลงในบทความนี้ ซึ่งผมเลือกเฉพาะส่วนที่คิดว่าน่าสนใจมาลงครับ โดยส่วนตัวติดว่าเด็กที่ใส่นาฬิกาหมดความเป็นส่วนตัวไปเลยทีเดียว ส่วนเรื่องความปลอดภัยสำหรับตัวเด็กนั้นต้องบอกเลยครับว่ายอดเยี่ยม

ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กที่ยังเล็กเกินไปครับ แนะนำ 5 ขวบขึ้นไปครับ