Honda CBR650R 2019

โอกาสที่จะขี่รถ cc สูง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Bigbike นั้น สำหรับผมโอกาสไม่ได้มีมากมาย เพราะตอนวัยรุ่นทางบ้านจะไม่เอาด้วยกับการขี่รถพวกนี้ซักเท่าไหร่ พอเรียนจบมีงานทำก็ใช่ว่าจะซื้อได้ง่ายๆ เหมือนปัจจุบันเพราะส่วนใหญ่จะเป็นรถที่สวมทะเบียน หรือเป็นแค่รถ “Invoice”

Wave 110 รุ่นที่สอง

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนนี้ได้รถมอเตอร์ไซต์คันแรกจากการช่วยพี่ทำงาน ตอนนั้น Wave 110 รุ่นที่สองออกมาพอดี ที่บ้านจะไม่ชอบเรื่องแข่งรถ หรือแต่งรถ แต่ผมดันชอบด้วยสิ ตอนนั้นก็จะมีนิตยสารเกี่ยวกับการแต่งรถ ผมก็ซื้อตลอดนะ แต่สไตล์การแต่งรถของผมจะไม่เหมือนคนอื่นตรงที่ว่า ไม่ชอบเสียงดัง และชอบสไตล์แบบเรียบง่าย แต่คนนี้ก็ทนไม้ทนมือมาก จนถึงตอนนี้ยังใช้งานอยู่นะ เกือบจะ 20 ปีแล้ว

หลังจากเรียนจบทำงานผ่านช่วงชีวิต ผ่านอะไรต่างๆ มามากมาย จนลืมเรื่องราวของมอเตอร์ไซต์ แต่ก็ยังติดตามวงการแข่งรถเรื่อยๆ ความคิดในการมีรถมอเตอร์ไซต์ก็ค่อยๆ จางหายจากไป จนกระทั่งวันที่ผ่อนรถยนต์หมด ก็มีความคิดอยากกลับไปขี่มอเตอร์ไซต์อีกรอบ เอาคันไหนดี!!!

PCX 150 Hybrid

เริ่มจากอยากได้มอเตอร์ไซต์ทั่วไปขี่ไปมาที่ทำงาน กลับบ้าน เข้าไปในเมือง เลยมองไปที่ Scooter ตอนนั้นทีตัวเลือกคือ Yamaha N-Max กับ Honda PCX แต่ด้วยความเป็นสาวกของค่ายปีกนกอยู่แล้วก็ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจาก PCX และขอขยับไปเป็นตัว Hybrid เพื่อความทันสมัยนิดนึง

หลังจากได้ขี่มอเตอร์ไซต์ ความรู้สึกเดิมเมื่อครั้งก่อนก็กลับมาทำให้เรารู้สึกดีิอีกครั้ง จนอยากขี่ไปไกลๆ เลยขี่ไปหาลูกที่ลำปางดีกว่า จนมี BigBike แซงไป ทีนี้แหละเหมือนสมองไปขุดความรู้สึกเก่าๆ ออกมาเรื่อยๆ จนต้องไปที่โชวรูม Honda Bigwing เลยทีเดียว

Fisrt impression at the showroom

หลังจากหาข้อมูลอยู่นานหลายวัน เปรียบเทียบรถแต่ละรุ่น เปรียบเทียบราคาอะไรหลายๆ อย่าง จนสุดท้ายคุ้มสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น mid class อย่าง CBR650r ของ Honda เช่นเคย ไป Honda Bigwing ไปดูตัวจริงก่อนเลย รู้สึกว่า เห้ยมันโอเคนะ สวยดี แฟริ่ง อาจจะพองๆ หน่อย ดูสีดำเอาไว้แต่ทางพนักงานบอกว่ารุ่นนี้ไหม มีท่อ Moriwaki, Quickshifter และของแต่งๆ อื่นๆ แต่มีแค่สีแดงถ้าอยากได้สีดำต้องรอ แล้วผมรอเป็นที่ไหนล่ะครับ

จัดการเรื่องคำนวณค่างวด เอกสารต่างๆ เซ็นสัญญากับไฟแนนซ์เรียบร้อยทั้งหมด ก็รอรับรถ หาวันออกรถเลยครับ ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนทุกคนตกใจ ไม่กี่วันก็เอารถออกมาขี่ได้แล้ว

สเป็คที่ได้

สำหรับรุ่นรถที่ผมได้จะเป็นตัว Special Edition ซึ่งจะแพงกว่าตัวปรกติเพราะมีของแต่งติดมาด้วย ของแต่งที่ได้จะมี

• Quickshifter
• ท้ายแต่ง
• ท่อ Moriwaki full system

มีสามอย่างเองครับ แต่ราคาเอาเรื่องนะครับสามชิ้นนี้ ผมลองเทียบราคาดูแล้วถูกกว่าซื้อแต่งเองพอสมควรเลยทีเดียว ตัวที่คุ้มที่สุดน่าจะเป็น ท่อ Moriwaki กับ Quickshifter นี่แหละครับ

รับรถวันแรก

ตื่นเต้นนะครับการกลับมาขี่บิ๊กไบค์อีกครั้ง ไปถึงทางร้านเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทันที ไปถึงก็มีการเซ็นเอกสารนิดหน่อย มี Gift Voucher 20,000 บาท ก็ใช้ซื้อของแต่งภายใน Honda เลยแต่ก็ต้องรอของมานิดนึงครับ

จากนั้นก็มีการส่งมอบรถ เดินตรวจความเรียบร้อยรอบรถ เซ็นรับรอง จากนั้นทางพนักงานก็มาสอนระบบต่างๆ ของรถ หน้าปัดของรถ ถ่ายรูป จากนั้นก็ขับออกไปเลยครับบบ แต่ต้องรีบไปเติมน้ำมันเพราะให้มาน้อยเหลือเกิน

การขับขี่ช่วงแรก

การขับขี่ช่วงแรกต้องปรับตัวในหลายเรื่อง เพราะไม่ได้ขี่บิ๊กไบค์มาสิบกว่าปี แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเพราะ CBR650R เป็นรถที่เป็นมิตรกับคนขี่อยู่แล้ว จึงไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย เป็นรถแบบ Sport Touring ตำแหน่งการวางมือ กับท่านั่งก็ไม่ได้หมอบเหมือนกับ CBR1000RR จึงขี่ค่อนข้างสบายจึงไม่ได้เมื่อยจนเกินไป

CBR650R คันนี้มาพร้อมกับท้ายแต่งซึ่งจริงๆ แล้วมีเบาะแถมมาให้อีกที สามารถเปลี่ยนได้หากมีคนซ้อนท้าย หากวันไหนขี่คนเดียวก็เปลี่ยนเป็นท้ายสปอร์ตเพื่อความสวยงาม แต่หากวันไหนมีสาวๆ นั่งด้วย ก็เอาเบาะมาใส่ได้เลย

เนื่องจากไม่ได้ขี่บิ๊กไบค์มาหลายปี ช่วงแรกๆ ก็ยังต้องปรับตัวกันใหม่ซึ่งความเร็วยังไม่ต้องพูดถึงไม่ได้อัดมากมาย แต่รถ Honda ยังคงคอนเซปต์ของเขาเองว่าเป็นรถที่เป็นมิตรกับผู้ขี่จึงใช้เวลาไม่นานในการปรับตัว และเรียบรู้รถคันนี้

เรื่องความแรงหากเทียบกันค่ายอื่นๆ คงเป็นที่สุดท้ายอะครับ ม้าโดนตอนกันไป แต่หากอยากได้ความแรงจริงๆ คงต้อง Remap กล่องครับ

Time to upgrade

“ขี่รถเดิมๆ ยอมเดินดีกว่า” หลายคนบอกเอาไว้อย่างนี้ แต่บางอย่างหากเราไม่ชอบก็แค่เปลี่ยนใส่อันที่เราชอบ ผมไม่ค่อยได้แต่งอะไรมากมายสักเท่าไหร่ เอาแค่คิดว่าสวยสำหรับตัวผมก็โอเคละ มาดูสิ่งที่ผมใส่เพิ่มกันครับ

ท้ายสั้นแบบพับไม่ได้ จริงๆ ท้ายเดิมดีอยู่แล้วครับถูกกฏหมายด้วย แต่ด้วยที่ว่าท้ายรุ่นนี้มันหดๆ ยังไงไม่รู้ หากใส่ท้ายเดิม มันยื่นเด๋อๆ ยังไงไม่รู้ แต่ผมเลือกแบบพับไม่ได้ เพราะไม่อยากเถียงกับพี่จ่าเขาครับ

ชิลด์หน้าแต่ง สำหรับชิลด์หน้าเดิมที่ติดมากับรถนั้นเป็นสีใสและค่อนค้างต่ำ ลมตีเข้าหน้าหากขี่แบบไม่หมอบ เลยเปลี่ยนเป็นชิลด์ดำทรงสูงเพื่อให้ล้มพ้นหมวกเวลาขี่ด้วยความเร็ว

แฮนด์แต่ง เริ่มรู้สึกว่าท่านั่งยังดูไม่กระชับ ตัวออกจะตั้งไป เวลาอยู่ในโค้งด้วยความเร็ว รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันว่ายังสปอตไม่พอ เลยเปลี่ยนแฮนด์แต่ง สามารถปรับองศาได้หลายแกน ตามที่ชอบเลยทีเดียว

เกียร์โยง มีแฮนด์แต่งก็ต้องมีเกียร์โยงเพื่อปรับระดับเท้าให้สอดคล้องกับแฮนด์

ตุ้มปลายแฮนด์ กับการ์ดเบรก เปลี่ยนการ์ดเบรกก็ต้องเปลี่ยนตุ้มแฮนด์ด้วย เพื่อถ่วงน้ำหนัก ให้แฮนด์ไม่สั่น การ์ดเบรกเพื่อป้องกันก้านเบรกโดนสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่งั้นรถอาจจะเสียหลัก ภายหลังถอดออก เพราะเปลี่ยนแฮนด์

การ์ดหม้อน้ำ ถามว่าสำคัญไหมก็สำคัญ ถามว่าจำเป็นไหม ก็ไม่ แต่มีไว้ก็เสียหายอะไรมากมาย กันหินดีดมาโดนหม้อน้ำ

มันยังไม่ใช่

หลังใช้ CBR650R มาประมาณ 8-9 เดือน ใช้เกือบทุกวัน พยายามปรับในหลายๆ สิ่งเพื่อให้เข้ากับตัวเรามากที่สุด แต่มันก็ยังไม่ใช้ คิดอยู่หลายครั้งจะเอารถไปสนาม แต่หลายๆ อย่างยังต้องใส่เพิ่ม แล้วเมื่อไหร่จะจบ จะต้องปรับไปอีกนานเท่าไหร่

เริ่มลังเล ถ้าแล้วถ้าเราไปให้สุดล่ะ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว จะดีไหมหนอ?

ให้มันจบๆ

ศึกษาอยู่พักใหญ่ๆ ก็ประกาศขายคันนี้เพื่อ สมทบทุน CBR1000RR SP แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ