Airoh Valor White Gross Marshall : Review

Airoh Valor White Gross Marshall : Review

นานมากเหลือเกินที่ไม่ได้เขียนรีวิวของที่ใช้ในชีวิตประจำวันเลย หรือแม้แต่ Blog และบทความต่างๆ ยังแทบไม่มีเวลา จริงๆ จะบอกว่าไม่มีเวลาก็ไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เขียนบทความต่างๆ นั้นต้องใช้อารมณ์ และเวลามากเหลือเกิน

ช่วงที่ผ่านมาหลังจากทานยา (Venlafaxine) เหมือนอารมณ์จะกลางๆ เข้าถึงอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้ยากมาก ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หายไปในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ

เลือกซื้อหมวกกันน๊อค

เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาผมซื้อมอเตอร์ไซค์ Honda PCX Hybrid ซึ่งก็กำลังมองหาหมวกกันน๊อคดีๆ สักใบ ตอนนั้นก็รู้ว่ามี Brand ดังๆ มากมายแต่ราคาที่เราหยิบยื่นได้พร้อมกับแบรนด์ที่ต้องการนั้นมันช่างหายากเหลือเกิน

หลายๆ ร้านในเชียงใหม่เราก็ไม่รู้จักมากมาย เพราะห่างเหินจากวงการมอเตอร์ไซค์ไปตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม ตอนนั้น Brand ที่นิยมและที่รู้จักส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวก SHOEI, ARAI, AGV อะไรพวกนี้

สุดท้ายก็ต้องเลือกแบรนด์เหล่านี้ด้วยหลายเหตุผล กับเงินในกระเป๋า จนสุดท้ายก็ตัดตัวเลือกลงมาตามเหตุผลของเราเองมาจบที่ K5 S E2205 MONO MATT BLACK

AGV K5

AGV เป็นแบรนด์ที่ดังมากในหมู่วัยรุ่น ด้วยรูปทรง และพรีเซนเตอร์อย่าง Valentino Rossi (VR46) ก็ปังมากแล้ว ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมากแต่อยากได้หมวกดีๆ สักใบที่ผ่านมาตรฐานการป้องกันความปลอดภัย รวมไปถึงรูปทรงแบบ Racing อีกด้วย

ใส่ K5 ได้พักนึงก็ขายไป (ไม่ถึงเดือน) เพราะเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งาน หมวก AGV จะกระชับกับใบหน้ามาก การบีบแก้ม อะไรเหล่านี้ เลยคิดว่าเป็นหมวกที่เหมาะกับรถในสนามมากกว่า เลยจำใจขายออกไป จำได้ว่าซื้อที่ Chang MOTO และเอาไปขายที่ กุ๊ยเจริญเมือง ซึ่งอยู่ถัดกัน

เปลี่ยนรถ

หลังจากใช้ PCX ไปได้ปีกว่าๆ ก็รู้สึกว่ากลับมาขี่มอเตอร์ไซค์มีความสุขมากกว่าเสียอีก คิดถึงวันเก่าสมัยเรียนที่ชอบแต่งรถ (ไม่ถึงขนาดเด็กแว้น) ดูรถแข่งแล้วเอามาคุยกันกับเพื่อนที่โรงเรียนว่าอยากได้คันนั้นคันนี้ สนุกสนานในหมู่เพื่อนฝูง กลายเป็นความมันส์ในวัยเด็กที่ไม่อาจลืมเลือน ถึงมันจะจางๆ ไปแต่ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

จนวันนี้เราพอมีกำลังที่เติมความฝันในส่วนนี้ได้ ทำไมเราไม่ทำล่ะ? ใช่ไหม?

ผมมอง CBR1000RR ไว้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมต้องดูด้วยเราไหวไหม ผ่อนน่ะไหวอยู่แล้วแต่ค่า service อะไรพวกนี้ด้วยที่เราต้องคำนึงด้วย เลยลดความทะเยอทะยานลงมาจบที่ CBR660R ก็เพียงพอในเวลานี้

เรื่องรถไว้จะกลับมาเขียนในโพสต่อไปครับ ได้รถมาแล้ว ต่อไปก็หมวกกันน๊อคครับ เข้าเรื่องกันสักที

เลือกหมวกกันน๊อค ตอนที่สอง

หลังจากที่เปลี่ยนรถ แน่นอนว่าหมวกกันน๊อคที่ใช้อยู่คงรับมือไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นหมวกกันน๊อคทั่วไปที่ใส่กันเต็มบ้านเต็มเมือง ถามว่าดีไหม ก็เหมาะสมกับรถทั่วไปครับ หากถามว่าแล้วทำไมต้องเปลี่ยน ผมขอตอบไว้ก่อนนะครับว่า ไม่ได้ตามเทรน อวด อะไรเลย ตามความเหมาะสมในการใช้งานครับ

ปัจจัยหลักในการเลือกหมวกคือต้องเอาไปใช้ในสนาม หากเอารถไปวิ่งในสนามกับเพื่อน ต้องดูหลายเรื่อง เช่น น้ำหนักใส่นานจะเมื่อยไหม ความเร็วในการขี่ในสนามจะเร็วมาก (180km/h - 200km/h) ต้องมั่นใจว่าหมวกยังนิ่ง และไม่สั่น และที่สำคัญ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย มาตรฐานความปลอดภัยอันนี้สำคัญต้องมีความน่าเชื่อถือ หลักๆ สำหรับผมจะประมาณนี้ ที่เหลือก็เป็น feature ที่ทางแบรนด์ให้มา ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วที่จะครบขนาดนี้คงหาไม่ยากหากเงินถึง อย่างเช่น Shoei, Arai เป็นต้น

แต่หากงบน้อยล่ะ?

Airoh Valor

หลังจากหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ๆ ประกอบการเดินไปดูตามร้านต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งไม่ค่อยมีที่ตรงตามที่เราต้องการกับเงินน้อยๆ ในกระเป๋า สุดท้ายก็มาจบที่ร้าน Rider Care กับหมวกที่ลองใส่แล้วรู้สึกชอบ Airoh Valor

Airoh Valor หมวกที่ราคาไม่แพงแต่สำหรับผมค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว กับราคาและสิ่งที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย แต่อยู่ที่ว่าข้อเสียที่ได้มันมากเกินที่รับไว้ไหม ถ้าเราโอเคกับมันก็ Deal with it!

Graphics

Airoh Valor มีหลากหลายลวดลายแล้วแต่ว่าใครชอบในแบบไหน ผมเป็นคนที่ลายแบบพื้นๆ ไม่เน้นลวดลายมากนัก ส่วนตัวจะชอบ Black Matt จริงๆ ก็มีให้เลือกไม่มากเท่าไหร่ เท่าที่มีอยู่ที่ร้าน ผมจึงได้ลาย White Gross Marshall กลับมา

มาตรฐานความปลอดภัย

สำหรับ Airoh Valor มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยของหมวกกันน็อค SHARP 5 Stars สรุปผลดูได้ตรงนี้เลยครับ https://sharp.dft.gov.uk/helmets/airoh-valor/ หากเราดูตรงท้ายหมวกก็จะมี Logo ของ มอก. ติดมาด้วยเรียบร้อยครับ

SHARP 5 Star เป็นมาตรฐานการรับรองของกรมการขนส่ง ของประเทศอังกฤษ ซึ่งทำการทดสอบจริงทั้งหมด โดยจะสุ่มนำเอาหมวกกันน็อคที่มีจำหน่ายในร้านค้ามาทำการทดสอบ ไม่ใช่การส่งหมวกจากผู้ผลิตมาให้ทดสอบ ถือเป็นอีกการทดสอบที่เชื่อถือได้สูงมาก เพราะว่าเป็นการทดสอบหมวกที่มีวางจำหน่ายจริงๆ อีกทั้งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดภายในเว็บไซต์ได้ด้วยว่าหมวกแต่ละรุ่น สามารถกระจายแรงกระทำต่อหัวได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยจะมีคะแนนสูงสุดที่ 5 ดาว สามารถเลือกดูยี่ห้อและรุ่นได้ที่นี่ https://sharp.dft.gov.uk/

รายละเอียดทั่วไป มุมมอง และรูปทรง

Airoh Valor นั้นหลังจากที่ผมใช้ชีวิตประวัน ทั้งขี่ไปทำงาน เอาไปขี่ในสนาม หรือแม้กระทั่งไปออกทริป เรียกได้ว่าใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันเลยทีเดียว เหมือนกับว่าทดสอบทุกอย่างให้กับหมวกใบนี้เลย ขาดอย่างเดียวที่ไม่ได้ทดลอง และก็ไม่คิดจะลองคือ การเกิดอุบัติเหตุ

มุมมองของหมวกใบนี้ผมชอบนะ มุมมองกว้างมาก มองซ้ายขวานี้คือเห็นจนสุดระยะสายตาของเราเองทั้งหมด และไม่ว่าจะพยายามเหลือบมองมากแค่ไหนก็ไม่เห็นขอบของหมวกกันน๊อคเลย ข้อนี้ถือว่าทำได้ดีมาก

มาดูเรื่องรูปทรงกันบ้าง หมวกใบนี้มีการเล่นเหลี่ยมเยอะพอสมควร ด้วนเหตุผลทางด้าน aerodynamic ด้วย ทำให้หมวกดูมีมิติ ไม่ได้เรียบจนดูหน้าเบื่อ แต่สำหรับคนที่ต้องติดกล้องกับหมวก นี่จะเป็นฝันร้ายเหมือนดั่งเช่นตัวผมเอง

การติดกล้อง Gopro หรือกล้อง Action Camera ให้หมวก Airoh Valor ทำได้อยากมาก เพราะหมวกเป็นเหลี่ยมเยอะ โดยเฉพาะตรงแก้มทั้งสองข้างมีจุดเว้า ทำให้วางฐานติดกล้องยาก ส่วนด้านบนของหมวกนั้น ก็โค้งจนต้องติดฐานกล้องไม่ได้เช่นกัน

ขนาด และน้ำหนัก

Airoh Valor มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1400 กรัม บวกลบ 50 แล้วแต่ขนาด ซึ่งมีทั้งหมด 6 ขนาด

  • XS (53-54 cm)
  • S (55-56 cm)
  • M (57-58 cm)
  • L (59-60 cm)
  • XL (61-62 cm)
  • XXL (63 cm)

การระบายอากาศ

การระบายอากาศทั้ง 8 จุดของหมวกทำได้ดีครับ เย็นสบาย มีตาข่ายกั้นในช่องรับลมเพื่อกันแมลงหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องดักลม ตัวดักลมทั้งสองช่องตรงแก้ม รับลมได้ดีมาก แต่ แต่ แต่ เสียงลมที่เข้าผ่านช่องดักลมตรงแก้มเสียงดังมาก นี่เป็นอีกหนึ่งข้อเสียของหมวกรุ่นนี้ครับ

ส่วนช่องดักลมตรงที่ปากนั้นก็รับลมเข้าได้ดีทีเดียว ดีจนกระทั้งเป่าขึ้นตาเลยทีเดียว ขี่เร็วมีง่วงนอน

การใช้งานที่ความเร็วสูง (~180km) ในสนาม อากาศพลศาสตร์ ถือว่าทำได้ดีมากหมวกไม่สั่น ค่อนข้างนิ่ง เสียแค่เรื่องเสียงที่ช่องดักลมตรงแก้ม ยิ่งเร็วยิ่งดัง

ภายในหมวก และชิลหน้า

ภายหมวกกระชับกับใบหน้าดีพอสมควร ช่องที่หูค่อนข้างเล็กไปนิดนึง ผมใส่ลำโพงบลูทูธแนบเกือบติดหู ทำให้ใบหูพับติดหัวไปหน่อย และผมเองเป็นคนใส่แว่นตา ทำให้ค่อนข้างลำบากนิดนึง

ผ้านวมภายในถอดได้แต่ส่วนบน เพื่อนำไปซักได้ แต่ส่วนแก้มต้องงัดออกมา ค่อนข้างยากมาก มีโฟมหักหากงัดออกมาไม่ดีพอ ถึงงัดออกมาได้ แต่ไม่สามารถถอดผ้าออกจากโฟมเพื่อทำความสะอาดได้

ส่วนชิลหน้าเป็นชิลใสที่แถมมา พร้อมฟิล์มกันรอย ถอดออกค่อนข้างยาก ต้องใช้แรงงัดเสี่ยงต่อการหัก แถมมาด้วยตัว Lock ชิลหน้าที่เรียกว่า Pinlock® กันชิลเปิดแต่เปิดมือเดียวยากนิดนึง

สายรัดคางยังไม่ได้ Dd ring ได้มาเป็น Gib Lock แทนน่าเสียดายตรงนี้

ความคุ้มค่า

จากการใช้งานที่หลากหลายในแบบของผม ผมชอบใบนี้ ถึงแม้จะไม่ใช้ใบที่เพอเฟกต์ในทุกด้าน แต่สิ่งที่ได้เทียบกับราคาของมันเอง บอกไว้เลยคุ้มสุดๆ สำหรับผมไม่เสียดายที่ซื้อใบนี้มาใช้

ผมขอให้คะแนนในแบบของผมที่ 8/10 คะแนนครับ

สำหรับใครที่ยังมองหาหมวกกันน๊อคดีๆ สักใบ หรือชอบแต่งตัว ลองไปเยี่ยมชมหรือ ปรึกษาได้ที่ร้าน Rider Care ดูครับ

Comments

comments powered by Disqus